ด่วน!แอลพีจี.ใช้ได้อีก12วัน ปตท.ส่งสัญญาณเตือนก๊าซแอลพีจีใช้ได้อีก12วันเท่านั้น เหตุเรือนำเข้าจากซาอุฯ มาไม่ทัน ด้านกรมธุรกิจพลังงานอนุมัตินำเข้าอีก 40,000 ตัน ส่งผลให้ปตท.แบกรับภาระเพิ่มกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนถังก๊าซติดรถยนต์ขาดแคลนหนัก แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ความต้องการใช้ก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีในขณะนี้ว่า จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้ก๊าซหุงต้มในภาคขนส่งมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น โดยจากช่วงเดือนมกราคม 2551 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 52.3 ล้านกิโลกรัมแต่เดือนเมษายน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 55.5 ล้านกิโลกรัม และเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มอีก เนื่องจากประชาชนหันไปติดตั้งก๊าซแอลพีจีเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ต้องนำเข้าก๊าซหุงต้มจากต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จากที่ล็อตแรกนำเข้าเมื่อเดือนเมษายน เพราะปริมาณกำลังการผลิตในประเทศที่มีอยู่ 340,000 ตันต่อเดือนไม่เพียงพอใช้ จากการประเมินสต็อกก๊าซหุงต้มที่นำเข้ามา ขณะนี้เหลืออยู่เพียงประมาณ 4,800 ตัน หรือพอใช้ได้เพียง 12 วัน นับจากวันที่ 14 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป เนื่องจากมีความต้องการใช้ประมาณ 400 ตันต่อวัน เนื่องจากปตท. เว้นการนำเข้าก๊าซหุงต้มมาเป็นเวลา 2 เดือน จากปัญหาความไม่ชัดเจนในขั้นตอนบริหารจัดการว่าภาครัฐจะหาเงินมาคืนปตท.ที่ต้องแบกรับภาระนำเข้าก๊าซหุงต้มโดยวิธีใด แต่เมื่อคณะกรรมการบริหารพลังงาน(กบ.) มีมติที่จะเก็บเงินคืนปตท.โดยปรับราคาก๊าซหุงต้มในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมในช่วงเดือนกรกฎาคม 2551 ส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้มีความชัดเจนเกิดขึ้น -++ปตท.แบกภาระนำเข้าเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน กรมธุรกิจพลังงาน ก็เพิ่งทำหนังสือถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2551 ให้นำเข้าก๊าซหุงต้มในปริมาณ 40,000 ตัน ซึ่งสูงกว่าแผนเดิมที่วางไว้ 13,000 ตัน เพื่อเผื่อไว้จนถึงเดือนกรกฎาคม ที่ต้องนำเข้าอีก 25,000 ตัน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า การจะจัดหาแหล่งซื้อก๊าซหุงต้มและเรือที่จะขนมาต้องกินระยะเวลา 4-5 วัน รวมเวลาเดินเรือจากซาอุดิอาระเบียมาถึงประเทศไทยอีกประมาณ 15 วัน ดังนั้น สต็อกก๊าซหุงต้มจากการนำเข้าครั้งก่อนจึงไม่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการได้ และอาจจะส่งผลให้ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2551 เกิดการขาดแคลนก๊าซหุงต้มขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ทราบว่ากรมธุรกิจพลังงาน ได้มอนิเตอร์สต็อกก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด โดยให้ผู้ค้าก๊าซหุงต้ม แจ้งสต็อกทุกๆ 7 วัน เพื่อให้มีใช้อย่างเพียงพอ แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า จากปริมาณการนำเข้าก๊าซหุงต้ม 40,000 ตัน จะทำให้ปตท.ต้องแบกรับภาระการนำเข้าในล็อตนี้อีกประมาณ 830 ล้านบาท เนื่องจากราคาก๊าซหุงต้มได้ขยับขึ้นไปประมาณ 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เมื่อบวกค่าขนส่งอีก 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ในขณะที่ราคาจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 320 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทำให้มีส่วนต่างที่ต้องรับภาระ 630 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งหากรวมภาระจากการนำเข้าครั้งก่อน ทำให้ปตท.ต้องแบกรับภาระแล้วประมาณ 1,150 ล้านบาท ส่วนแผนการนำเข้าก๊าซหุงต้ม ในช่วงเดือนสิงหาคม จะไม่มีการนำเข้า แต่จะไปนำเข้าในเดือนกันยายน-ตุลาคม เดือนละ 20,000 ตัน และเว้นช่วงเดือนพฤศจิกายน แล้วไปนำเข้าในช่วงเดือนธันวาคม 2551 ถึงเดือนมกราคม 2552 อีก 20,000 ตัน เดือนกุมภาพั นธ์ และมีนาคมเดือนละ 25,000 ตัน และเดือนเมษายน 40,000 ตัน ที่มา http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=T0123317&issue=2331
มันไม่สนใจหลอกว่า ประชาชนเดินดินกินข้าวแกง จะมีกินมีใช้หรือเปล่า มันสนใจแต่ ให้ กลุ่มคนบ้างกลุ่มของ พวกมัน มีเหลือกินเหลือใช้ เหลือ จน โคตรมันเกิดมาแล้วอีกรอบก็ใช้กันไม่หมด มันสนแต่ว่า กำไร กำไร ปันผล กำไร ปันผล ปั่นๆๆๆๆๆ เซ็ง โว้ย ต่อไป ข้าวจานละ 50 ก็ตายห่าแดกมาม่า กัน จนสมองฝ่อ แล้วจะเอาอะไรมาาพัฒนาประเทศ ได้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
สาดแม่งขึ้นทั้งน้ำมันแม่งไม่พอแม่งยังมาเสือกขึ้นLPGอีกสาด.....ปู่อย่างนี้ ปั่นจักรยานไปทำงานแม่งดีกว่าสาด.............ปู่ลุยแม่งเลยเดี๋ยวเอสจะอยู่ข้างๆปู่ เองสาด
สงสัยต้องใช้พลังงานไอน้ำแล้วซิเรา เอาถ่านใสเตาต้มน้ำให้เดือดเอาไอน้ำไปปันเทอร์บายที่เชื่อมติดกับล้อรถ แม่งไปทำงานที่ต้องติดเตาที5555555555555555555555555555555
เอ้าๆ เออๆ คอยดูกันต่อไป ประชาชนลุกหือ เมื่อไหร่ บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ... นั่นคือ สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้เค้าต้องการให้เกิดขึ้น...
เรือนำเข้ามาไม่ทัน หรือ เมิง ไม่ยอมนำเข้า หรือ เมิงหาทาง ให้ LPG ราคาแพง แล้วคนจะได้ไปใช้ NGV ของเมิงกันว่ะ แสรดดดดดดดดดด อยากจะให้คนใช้กัน แต่ ปั๊ม แม่งเติมมีเป็นชาติ นึกว่าจอดรถข้างฟุตบาท เติมที ก็ไปได้ไม่กี่ร้อยโล ขับไปไหน ไม่ต้องทำมาหาแดรก พอดี พอคนส่วนใหญ่มีทางเลือกที่ดีกว่า (ของเมิง) พวกเมิงก็หาทางกันไป เพื่อจะให้ได้ผลประโยชน์เข้าตัว ..อารมณ์ขึ้นเลย กรู คำก็แบกรับภาระ สองคำก็ขาดทุน แล้วทุกวันนี้ เมิงคิดว่าคนไทยไม่ได้แบกรับภาระเหรอวะ แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด โมโหเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
โกงกินกันไม่พอหรือไงหันมาใช้พลังงานทางเลือกแล้วพอมาใช้เยอะก็เพิ่มราคากันเข้าไปทีNGVระเบิดปิดข่าวกันจังปิดได้กี่วันวะสาดดดดดดดดดด
กรูไม่น่า หลงเข้าไป ที่ สำนัหงานใหญ่ วิภา เลย อุตสาห์หลง ชื่นชอบ พนักงาน / อาคาร/ การจัดการ / นักศึกษาฝึกงาน ใหญ่โตดี ที่แท้ แม่ม ก็ ปลิง เกาะ แดก คนไทย น่าจะเปลี่ยน จาก ปลิง เป็น คนกวาด ถนน น่ะเมิง เพราะว่าเค้า ก็รู้จัก ช่วยประเทศ แต่ ไอ้แวน นี่ ด้วย นโยบาย กลยุทธ์ มรึง มุ่งแต่ ผลกำไร อัน ใหญ่โต โดยไม่ คำนึง ถึง ส้นตีน อะไร รู้จัก แบ่ง กันกิน แบ่งกันใช้บ้าง ประชาชน เค้าไม่ได้ เหมือนพวกมึง เจ็ดแหม่!!!
ในฐานะผู้ดูแลบอรด์ มีอํานาจในการดูแลความสงบไม่ให้เกิดการแตกแยก จึงขอไม่ปิดกระทู้นี้ สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อย่าให้กรูต้องไปนั่งริมถนนราชดําเนินนะ
ขาดทุน แบกภาระไม่ไหว แม่ง สิ้นปีมากำไรสุทธิ เป็นแสนล้าน ไอ้ส้นตรีนนนนนนน... ปตท.หัวครวยยยย + Quote Reply